สมาธิหลุดบ่อย? มาหาคำตอบพร้อมวิธีแก้ไขปัญหากัน

เป็นเรื่องยากที่คุณจะให้ความสนใจ หรือโฟกัสอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งนาน ๆ ในเมื่อปัจจุบันมีสิ่งเย้ายวนใจมากมายที่ทำให้คุณต้องลงมือทำหลายอย่างในเวลาเดียวกัน ทำให้คุณหลุดความสนใจในสิ่งที่กำลังทำอยู่ไปเสียดื้อ ๆ และเริ่มลงมือทำสิ่งใหม่ที่อยู่ใกล้มือแทน ท้ายที่สุดแล้วคุณก็ทำสิ่งแรกที่คุณกำลังโฟกัสอยู่ไม่สำเร็จ และปัญหาที่ทำให้คุณหลุดการโฟกัสอาจมีสาเหตุมาจากทั้ง 6 ข้อด้านล่างนี้

1.ทำหลาย ๆ อย่างพร้อมกัน

ผู้คนมักคิดว่าคนเราสามารถทำสองสิ่งได้ในเวลาเดียวกัน แต่ตรงกันข้าม เพราะการทำงานทั้งสองอย่างจะทำให้คุณย้ายความสนใจของตัวเองไปกับการทำงานอีกชิ้นหนึ่งแทน

เป็นเรื่องยากที่จะมองหาวิธีแก้ไข เพราะการย้ายการโฟกัสไปอีกงานหนึ่ง ในขณะที่งานแรกก็ยังไม่เสร็จ ทำให้คุณต้องทำทั้งสองอย่าง (ที่ยังไม่เสร็จ) ไปพร้อม ๆ กัน คุณจึงควรโฟกัสไปที่งาน ๆ เดียวจนกว่างานนั้นจะเสร็จสิ้นจึงจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่ากับคุณ

หลีกเลี่ยงสิ่งล่อใจ และลงมือทำทีละอย่าง การโฟกัสอยู่กับสิ่งเดียว จะทำให้คุณเหนื่อยน้อยลง และช่วยให้การทำงานนั้น ๆ เสร็จเร็วและมีประสิทธิภาพได้มากกว่า

2.ขาดแรงจูงใจ

ด้วยสถานการณ์ของโรคระบาดโควิด 19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจจำนวนมาก แต่สิ่งที่ไม่ได้รับการพูดถึงมากเท่าไรนักก็คือผลกระทบต่อสุขภาพจิตของเรา ที่ทำให้คนเกิดความวิตกกังวลและอัตราการฆ่าตัวตายสูงขึ้น ในช่วงเวลาที่มืดมนเช่นนี้ง่ายต่อการสูญเสียแรงจูงใจ และทำให้คุณไม่มั่นใจในสิ่งที่กำลังทำ

วิธีที่ดีในการต่อสู้กับการขาดแรงจูงใจ คือให้หลีกเลี่ยงความคิดด้านลบ การอ่านข่าวที่ส่งผลต่อสภาพจิตใจ หรือพูดคุยกับคนที่ทำให้คุณรู้สึกคิดลบ รวมถึงทบทวนหัวข้อสนทนาหรือกิจกรรมที่ล้วนส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึกของคุณ ให้เน้นการทำในสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกดีกับตัวเอง อย่างการดูหนัง หรืออ่านหนังสือ รวมถึงอยู่ท่ามกลางผู้คนที่คิดบวก

บทความที่เกี่ยวข้อง 10 ขั้นตอนสร้างแรงบันดาลใจ เมื่อรู้สึกสิ้นหวังกับอนาคต

3.การแจ้งเตือน (ในโซเชียลมีเดีย)

ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่ใช้โซเชียลมีเดียติดต่อสื่อสารกันผ่านสมาร์ทโฟน รวมถึงใช้อีเมลในเมลในการติดต่องาน ส่งผลให้มีการแจ้งเตือนหลายร้อยครั้งต่อวัน การตอบอีเมล ข้อความแจ้งเตือน และการอัปเดตข่าวสารทุกครั้งจนมีเสียงแจ้งเตือนดังอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้นให้เลือกใช้เพียงแค่แอปพลิเคชันที่จำเป็น และปิดการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็นทั้งหมด หากเป็นเรื่องงานให้กำหนดเวลาการเปิดเช็คอีเมล เช่น หลัง 6 โมงเย็นงดติดต่อเรื่องงาน เป็นต้น

4.นอนไม่ค่อยหลับ

การนอนหลับมักเป็นสิ่งแรกที่ควรทำ เพื่อให้ร่างกายได้คลายความเหนื่อยล้าและมีความสุขกับชึวิตมากขึ้น หลังจากที่คุณได้พักผ่อนอย่างเต็มที่จะช่วยให้คุณโฟกัสกับงานได้นานขึ้น

การนอนหลับเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายและจิตใจได้รับการฟื้นฟูและซ๋อมแซมส่วนที่สึกหรอ ทั้งความไม่สมดุลของสารในสมอง ความเครียด และความวิตกกังวลอื่น ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้มักทำให้คุณนอนหลับได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก คุณจึงความสำคัญกับการนอนหลับ จัดตารางการนอนลงไปในกิจวัตรประจำวันของคุณ หากคุณนอนน้อยในตอนกลางคืน ก็ให้หาเวลางีบหลับระหว่างในวันรุ่งขึ้น

Lebron James หนึ่งในนักกีฬายอดเยี่ยมของโลก กล่าวว่าปัจจุบันเขานอนหลับได้ 8 ชั่วโมงต่อคืน และหากเขารู้สึกว่าเขาต้องการพักผ่อน ก็หาเวลางีบหลับ และปล่อยให้หลับไป

5.จ้องหน้าจอนาน ๆ

ปัจจุบันคนส่วนใหญ่ใช้เวลา 8 – 10 ชั่วโมงต่อวันในการจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน ทั้งจอโทรทัศน์ จอสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ ซึ่งส่งผลให้ดวงตาอ่อนล้า

บางคนปวดหัวและปวดตาจากการนั่งหน้าจอเป็นเวลานานเกินไป จึงควรหยุดพักสายตาบ้าง อย่างที่เคยมีนักทัศนมาตรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจวัดสายตาและสุขภาพตาเบื้องต้นได้กล่าวถึงกุญแจสำคัญในการจัดการกับปัญหาหน้าจอเอาไว้ด้วยกฎ 20-20-20 คือ ทุก ๆ 20 นาที ให้มองไปที่บางสิ่งที่อยู่ห่างออกไป 20 เมตร เป็นเวลา 20 นาที นอกจากนี้การใช้แว่นตากรองแสงสีฟ้าก็สามารถช่วยถนอมดวงตาให้เสื่อมสภาพช้าลง

6.ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ

ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความจริงได้ว่าปัญหาสุขภาพมักส่งผลต่อความสามารถในการโฟกัสและสมาธิของคุณ การที่คุณมีอาการปวดหลัง ก็ถือว่าเป็นอุปสรรคอย่างมากที่ทำให้คุณหลุดโฟกัส นั่นเป็นเหตุผลที่ว่ายิ่งคุณมีสุขภาพที่ดีเท่าไรก็ยิ่งทำได้ดีเท่านั้น

การกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และออกกำลังกายเป็นประจำ แม้ว่าจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ภายในชั่วข้ามคืน แต่การลงมือทำมันอย่างช้า ๆ จะได้ผลลัพธ์อย่างไม่น่าเชื่อเมื่อเวลาผ่านไป นี่เป็นคำแนะนำที่ดีที่สุดที่ช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *