เทศกาลคริสต์มาสไม่ได้มีเพียงแค่ซานตาคลอสเพียงอย่างเดียว แต่มีปีศาจร้ายด้วย! ซึ่งในแต่ละประเทศมีตำนานเกี่ยวกับเทศกาลคริสต์มาสที่แตกต่างกัน อย่างที่เราเคยได้เล่าไปในเรื่อง ตำนาน 13 ซานตาคลอสในไอซ์แลนด์
ในยุโรป อย่างประเทศเยอรมนีและออสเตรียก็มีตำนานที่เกี่ยวกับเทศกาลคริสต์มาสเช่นกัน มีเรื่องเล่าว่า ก่อนสมัยที่ศาสนาคริสต์ยังไม่เข้าถึง มีปีศาจตนหนึ่งว่าที่มีนิสัยคนละขั้วกับซานตาครอสชื่อว่า Krampus
รูปลักษณ์ของ Krampus มีหน้าตาน่ากลัว เป็นครึ่งคนครึ่งแพะ รูปร่างสูงใหญ่ มีขนรุงรัง มีหาง มีเขาบนหัวยาว มีลิ้นยาว เรื่องเล่าของ Krampus นั้นมีหลายตำนาน บางตำนานก็เล่าว่า Krampus อาจเป็นลูกของ “Hel” นางพญาจากนรกตามตำนานของนอร์ส มักมีโซ่อยู่ที่ลำตัว พร้อมถือง่ามหรือกิ่งต้นเบิร์ชเอาไว้ฟาดเด็ก ใครที่เกเรเป็นเด็กไม่ดีปีศาจตนนี้ก็จะใช้ไม้ตี และจับเด็กใส่ถุงนำไปทิ้งเพื่อลงโทษจนกว่าเด็กจะรู้สึกผิด
บางตำนานก็บอกว่า Krampus กับซานตาคลอสเป็นฝาแฝดที่มีนิสัยคนละขั้วกัน เป็นลูกครึ่งคนครึ่งเทวดาที่ถูกคนรับไปเลี้ยง ซานตาคลอสนั้นถูกคนจิตใจดีรับไปเลี้ยง แต่ทว่า Krampus ถูกคนนิสัยไม่ดีนำมาเลี้ยงจึงกลายเป็นคนที่มีจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตไปด้วย ทั้งฆ่าคนที่เก็บตัวเองมาเลี้ยง และเข้าสู่โลกด้านมืด เมื่อรู้ความจริงว่าตนเองมีฝาแฝดที่โชคดีกว่าตน ก็ออกอาละวาดทำลายเมืองก่อนวันคริสต์มาส จนสุดท้ายซานตาคลอสจับได้ ทั้งสองได้ปรับความเข้าใจกันด้วยดี Krampus ก็เลยกลายเป็นผู้ช่วยที่คอยลงโทษเด็กเกเรนั่นเอง
Krampus จะปรากฏตัวในคืนก่อนวันที่ 6 ธันวาคม หรือที่เรียกว่าเป็นคืน Krampus Night โดยจะมีการเฉลิมฉลองให้ Krampus ผู้ชายตามชนบทจะแต่งกายด้วยขนสัตว์ สวมหน้ากากปีศาจและเดินไปรอบ ๆ เมืองทำให้เด็ก ๆ หวาดกลัว พอถึงวันที่ 6 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันนักบุญนิโคลัส เด็ก ๆ จะนำรองเท้าบูธของตัวเองวางไว้ที่หน้าต่างหรือประตู เมื่อตื่นเช้ามาเด็ก ๆ ก็จะพบกับของขวัญในรองเท้าสำหรับเด็กดี และหากใครเป็นเด็กไม่ดี ก็จะได้รับไม้แทน
ปัจจุบันเรื่องราวของ Krampus ค่อย ๆ เลือนหายไป ไม่ได้เป็นที่จดจำหรือถูกพูดถึงมากเท่ากับเรื่องราวของซานตาคลอสผู้มีจิตใจงามที่ชอบมอบของขวัญให้กับเด็ก ๆ