
การนึกถึงเรื่องราวดี ๆ ในอดีตทำให้เรารู้สึกดี แต่ที่จริงแล้วยังมีอะไรมากมายกว่านั้น Nostalgia เป็นความรู้สึกที่คิดถึงหรือโหยหาอดีต ผู้คนจะรู้สึกคิดถึงเมื่อนึกถึงและตรึกตรองถึงเหตุการณ์สำคัญในอดีต
โดยทั่วไปแล้ว ความรู้สึกโหยหาอดีตเป็นความรู้สึกเชิงบวก นักวิจัยบางคนเชื่อว่าการคิดถึงอดีตมีประโยชน์ทางกายภาพและทางจิตใจ แต่ถึงอย่างไรการคิดถึงอดีตอาจแฝงไปด้วยความเศร้าได้เช่นกัน
มุมมองของการหวนระลึกถึง “จากคนยุคอดีต”
Nostalgia เป็นคำที่คิดค้นขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1688 โดยแพทย์ชาวสวิส Johannes Hofer เพื่ออธิบายอาการคิดถึงบ้านของทหารรับจ้างที่ต้องต่อสู้ในดินแดนห่างไกลบ้าน ซึ่งมาจากคำในภาษากรีกว่า nostos (การกลับบ้าน) และ algos (ความเจ็บปวด) อาการนี้จะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกคิดถึงบ้าน เกิดอาการเฉื่อยชา ซึมเศร้า รู้สึกสับสน และนอนไม่หลับ นอกจากนี้ผู้ป่วยยังมีอาการทางกายด้วย เช่น ใจสั่น และเป็นแผล สำหรับบางคน โรคนี้อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ เนื่องจากผู้ป่วยปฏิเสธที่จะกินอาหารและอดอาหารจนกระทั่งตายอย่างช้า ๆ ในช่วงปี ค.ศ. 1830 ชายชาวปารีสคนหนึ่งถูกขู่ว่าจะถูกไล่ออกจากบ้านที่เขารัก ทำให้ชายคนนี้ตรอมใจ (โดยล้มตัวลงนอน หันหน้าเข้าหาผนัง ไม่กิน ไม่ดื่ม ไม่ไปพบปะเพื่อนฝูง) ในที่สุดเขาก็เสียชีวิตลงด้วยอาการ “เศร้าโศกอย่างถึงที่สุด” และ “มีไข้สูง” เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่บ้านของเขาจะถูกรื้อถอนทิ้ง การวินิจฉัยอาการของเขาคือ Nostalgia
ต่อมาในศตวรรษที่ 20 อาการ Nostalgia ถูกแยกออกจากอาการคิดถึงบ้าน (Homesickness) และกลายมาเป็นความผิดปกติทางจิต แต่ในปัจจุบัน Nostalgia ไม่ใช่อารมณ์ที่เกิดขึ้นรุนแรงแล้วจึงไม่นับว่า Nostalgia เป็นโรคอีกต่อไป นักจิตวิเคราะห์ในยุคแรก ๆ กล่าวว่า คนที่มีแนวโน้มชอบนึกถึงความหลังมักมีอาการทางประสาทและไม่สามารถเผชิญหน้ากับความเป็นจริงในปัจจุบันได้
จนกระทั่งในช่วงปี 1970 มุมมองเหล่านี้จึงเริ่มผ่อนคลายลง ในปัจจุบันนักจิตวิทยาเชื่อว่าความรู้สึกคิดถึงหรือโหยหาอดีตเป็นอารมณ์เชิงบวก ทำให้ผู้คนเห็นคุณค่าในตนเองมากขึ้น ช่วยให้ชีวิตมีความหมายมากขึ้น ช่วยส่งเสริมความรู้สึกด้านการผูกพันทางสังคม และกระตุ้นให้ผู้คนกล้าขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงช่วยจัดการปัญหาของพวกเขา อีกทั้งยังช่วยปรับปรุงสุขภาพจิต ลดความเหงาและลดความเบื่อหน่าย คลายความเครียดหรือความวิตกกังวลลงได้ ซึ่งปัจจุบันมีการใช้ความรู้สึกหวนคิดถึงในการรักษาและปรับปรุงความจำในผู้สูงอายุ เสริมสร้างสุขภาพจิต และบรรเทาอาการซึมเศร้า
นักวิจัยด้าน Nostalgia กล่าวว่า…
Krystine Batcho ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาที่ Le Moyne College ที่ศึกษาด้าน Nostalgia มาอย่างยาวนาน กล่าวว่า “การเสพสื่อประเภทต่าง ๆ ที่ทำให้คิดถึงอดีตช่วยให้เราได้คิดทบทวนเกี่ยวกับตัวตนของเรา และช่วยให้เราเข้าใจจุดมุ่งหมายในชีวิตของเรา”
Batcho ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 1990 และยังได้พัฒนาแบบประเมินความโหยหาอดีตที่ประเมินว่าเรามีแนวโน้มที่จะคิดถึงอดีตมากเพียงใด โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เธอได้เห็นการวิจัยเกี่ยวกับ Nostalgia เพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์ต้องการรวบรวมข้อมูลว่า การคิดถึงเรื่องราวเก่า ๆ ในอดีตทำให้เรารู้สึกอย่างไร
ศาสตราจารย์ Ziyan Yang จากสถาบันวิจัยด้านจิตวิทยา อธิบายว่า ในขณะที่เราคิดถึงอดีต ผู้คนจะรู้สึกอบอุ่น ชื่นชอบ และรู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง และอาจจะรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในอดีต ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนผลักดันให้ผู้คนแสวงหาความทรงจำในอดีต Yang ยืนยันว่าภาพยนตร์และเพลงสามารถกระตุ้นให้เกิดความทรงจำในอดีตได้ง่าย ประสบการณ์ที่ทำให้เราคิดถึงอดีตสามารถปลอบโยนใจเราได้เป็นอย่างดีในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาส่วนตัวหรือช่วงเวลาอื่น ๆ ก็ตาม Batcho กล่าวว่า “สื่อที่เราคุ้นเคยในอดีตทำให้เรารู้สึกสบายใจขึ้น แต่ก็ตอบสนองความต้องการด้านการรับรู้ความเข้าใจด้วยเช่นกัน เพราะทำให้เราเชื่อว่าสิ่งต่าง ๆ จะดีขึ้นเพราะเคยดีมาก่อน”
การนึกถึงช่วงเวลาที่ยากลำบากในอดีต
ความคิดถึงไม่ได้ช่วยแค่ทำให้เรารู้สึกอบอุ่นและสบายใจเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เราประมวลผลสถานการณ์ปัจจุบันได้ด้วย Batcho กล่าวว่า เนื่องจากความคิดถึงเป็นวิธีหนึ่งในการรับมือกับสิ่งต่าง ๆ เช่น การแยกตัวจากสังคม หรือการขาดการติดต่อ และความเหงา โดยช่วงเวลาแห่งความทุกข์ยากอาจกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกคิดถึงอดีตได้ เพราะการจดจำว่าเราเป็นใครจะช่วยให้เราก้าวต่อไปข้างหน้าได้ โดยไม่หลงลืมตัวเอง
Batcho ยืนยันว่า ความรู้สึกคิดถึงหรือโหยหาอดีต (Nostalgia) มีประโยชน์ทางจิตวิทยาหลายประการ อย่างแรกคือ ความต้องการที่จะรู้สึกว่าเราสามารถควบคุมได้ แม้ว่าสถานการณ์ของเราส่วนใหญ่จะควบคุมไม่ได้ แต่การคิดถึงอดีตสามารถช่วยให้เรารู้สึกว่าอย่างน้อยเราก็สามารถควบคุมและพัฒนาตัวเองได้บ้าง
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้คนโหยหาอดีตคือ คอนเนคชั่นทางสังคม ซึ่งอาจฟังดูขัดแย้งที่เรานึกถึงเรื่องราวในอดีตของคนอื่นด้วยไม่ใช่แค่การนึกถึงอดีตของตัวเอง ความทรงจำที่เราหวนรำลึกถึงความหลังนั้นจะทำให้เรานึกถึงความสัมพันธ์ของเราที่มีกับผู้อื่น Batcho กล่าวว่าความทรงจำเกี่ยวกับเรื่องราวความหลังสามารถกระตุ้นให้เราค้นหาการสนับสนุนทางสังคม สภาพจิตใจและอารมณ์ได้ เนื่องจากความทรงจำเหล่านี้มักเกี่ยวข้องกับบุคคลที่สำคัญกับเราในอดีต
การโหยหาอดีตส่วนใหญ่ทำให้เราหวนคิดถึงช่วงเวลาในวัยเด็ก Batcho กล่าวว่าเหตุผลสำคัญประการหนึ่งก็คือ “ในวัยเด็ก เราเป็นที่รักเพียงแค่เราเป็นเรา เป็นในสิ่งที่เราเป็น”
ข้อดีของความรู้สึกคิดถึงหรือโหยหาอดีต
การคิดคะนึงถึงอดีตส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่ดี การวิจัยพบว่าความคิดถึงเช่นนี้สามารถเพิ่มความรู้สึกที่ดีต่อตัวเอง ช่วยเพิ่มแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์ ทำให้เรารู้สึกเด็กลง ตื่นตัว มองโลกในแง่ดี และมีพลัง แถมยังกระตุ้นให้เรากล้าเสี่ยงและบรรลุเป้าหมายได้อีกด้วย
ทั้ง Batcho และ Yang เห็นตรงกันว่า ในขณะที่รู้สึกคิดถึงอดีต ผู้คนส่วนใหญ่จะรู้สึกอบอุ่นใจ มีความสุข และรู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง หรืออาจจะรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไป
Yang และเพื่อนร่วมงานวิจัย ได้ค้นพบว่าความคิดถึงสามารถลดอาการเจ็บปวดและเพิ่มความสามารถในการรับมือกับภัยคุกคาม จากการศึกษาเกี่ยวกับอาการเจ็บปวดที่ลดลงนั้น มีการแบ่งกลุ่มการทดสอบเป็นสองกลุ่ม โดยกลุ่มแรกให้ดูรูปภภาพที่ทำให้คิดถึงอดีต ส่วนกลุ่มที่สองมีการทบทวนถึงเหตุการณ์ในอดีตเพิ่มขึ้น ผลที่ได้จากการทดสอบนี้ กลุ่มแรกมีการบรรเทาอาการเจ็บปวดในระดับต่ำ ในขณะที่กลุ่มที่สองมีการบรรเทาความเจ็บปวดอยู่ในระดับที่สูงและต่ำ ตามแต่ละบุคคล
นอกจากนี้ Yang ยังพบว่าการทำงานของสมองในระหว่างที่คิดถึงความหลังนั้นเกี่ยวข้องกับการสะท้อนตนเอง ความทรงจำเกี่ยวกับเรื่องราวส่วนตัวของตัวเอง การควบคุมอารมณ์ และกระบวนการให้รางวัลตัวเอง นั่นหมายความว่าการคิดถึงอดีตจะควบคุมการทำงานของสมอง โดยทำหน้าที่เป็นเหมือนกันชนที่ต้านภัยคุกคามทางร่างกายและจิตใจต่าง ๆ กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ มีการทำสิ่งอื่นที่มากกว่าแค่การนึกถึงแต่ความทรงจำดี ๆ
มองภาพความทรงจำด้วยเลนส์สีชมพู
แม้ว่าการนึกถึงเรื่องราวเก่า ๆ จะมีความทรงจำที่ดี แต่ความรู้สึกโหยหาอดีตก็อาจเป็นทั้งความสุขและความเศร้าได้ ในขณะที่คุณรู้สึกสบายใจและอบอุ่นกับความทรงจำนั้นเอง คุณอาจรู้สึกเศร้าด้วยเช่นกันเพราะไม่มีเรื่องราวนั้นเกิดขึ้นอีกแล้ว
“ความทรงจำในอดีตไม่ได้ดีเสมอไป บางครั้งมันก็ทั้งสุขและเศร้า” Yang อธิบายว่า “แม้แต่ความทรงจำแย่ ๆ ที่ผุดขึ้นมาในใจก็ดูเหมือนจะเป็นเชิงบวกมากกว่า เพราะเรามองมันผ่านตัวกรองที่เป็นสีชมพู” เราไม่ได้แค่โหยหาอดีตเท่านั้น แต่เรากำลังนึกถึงอดีตในเวอร์ชันโรแมนติก
เมื่อเวลาผ่านไปเรายิ่งมีความทรงจำในอดีตให้หวนรำลึกมากขึ้น เหตุใดส่วนที่เป็นลบจึงมักจะเลือนหายไปเร็วขึ้น ความคิดถึงเป็นเสมือนการหลีกหนีจากปัจจุบันชั่วคราวที่ช่วยให้เราผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้ และความคิดถึงอาจกลายเป็นเรื่องลบได้หากคุณมัวแต่ยึดติดกับการคิดถึงอดีต
โดยทั่วไปแล้ว การโหยหาอดีตเป็นองค์ประกอบที่มีประโยชน์และสำคัญยิ่งในประสบการณ์ของมนุษย์ แก่นแท้ของความรู้สึกคิดถึงหรือโหยหาอดีตจะช่วยนำเรากลับไปสู่ตัวตนที่แท้จริง และเตือนว่าเราถูกกำหนดให้เป็นเช่นไรมาตลอด
Nostragia vs Anemoia
คำว่า Anemoia หรือการโหยหาอดีตที่เราไม่เคยได้สัมผัสหรือเกิดขึ้นจริงกับเรา นั้นมีความแตกต่างออกไป เนื่องจากโดยทั่วไปแล้ว นักจิตวิทยาคิดว่าการคิดถึงอดีตนั้นขึ้นอยู่กับความทรงจำของแต่ละบุคคลที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ของตนเอง ซึ่งทำให้ยากที่จะนำสิ่งที่คุณบรรยายมาใส่ไว้ในคำอธิบายของพวกเขา แต่เมื่อไม่นานมานี้ ศาสตราจารย์ Felipe De Brigard นักปรัชญาจากมหาวิทยาลัยดุ๊กได้กล่าวถึงคำว่า Nostalgia ที่กว้างกว่านั้น ซึ่งรวมไปถึงความปรารถนาของมนุษย์ด้วย
เนื่องจากมีการวิจัยเกี่ยวกับความทรงจำที่แสดงให้เห็นถึงกระบวนการสร้างสรรค์ เมื่อคุณระลึกถึงความทรงจำที่ผ่านมา คุณไม่ได้กำลังค้นหาสิ่งที่เคยเกิดขึ้น แต่มันเหมือนกับว่าสมองของคุณสร้างการจำลองเหตุการณ์ในอดีตเหล่านั้นขึ้นมาใหม่
De Brigard จึงโต้แย้งว่าการหวนรำลึกถึงอดีตสามารถอิงจากความทรงจำได้ ซึ่งเป็นการจำลองประสบการณ์ในอดีตที่น่ายินดี แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นเช่นนั้น เมื่อพิจารณาถึงบทบาทของการจินตนาการในความทรงจำ เขากล่าวว่าการรำลึกถึงอดีตสามารถอิงจากประสบการณ์ในอดีตที่เป็นด้านบวกในจินตนาการก็ไม่ใช่เรื่องยาก
การนึกถึงอดีตที่อาศัยจินตนาการประเภทนี้มักจะได้รับอิทธิพลจากเรื่องราวและการโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับอดีต ดังนั้น คุณจึงน่าจะเคยอ่านหรือได้ยินเรื่องราวในประวัติศาสตร์ที่เป็นเพียงภาพลวงตา ทำให้ความคิดของคุณสร้างแบบจำลองว่าสถานที่หรือช่วงเวลาเหล่านั้นจะเป็นอย่างไร จนคุณรู้สึกอยากสัมผัสประสบการณ์เหล่านั้นด้วยตัวเอง ซึ่งสิ่งนี้น่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นมากกว่าหากคุณรู้สึกไม่พอใจกับสถานการณ์ปัจจุบันของคุณ
ความเชื่อมโยงระหว่าง การโหยหาอดีต และ ภาวะซึมเศร้า
การศึกษาล่าสุดระบุว่าผู้คนอาจมุ่งเน้นไปที่ความทรงจำเชิงลบเมื่อต้องเผชิญกับการโหยหาอดีต พวกเขาสามารถมองข้ามความทรงจำเดียวกันในด้านบวกได้ หากคน ๆ นั้นมองว่าอดีตของตนมีความสุขมากกว่าปัจจุบัน พวกเขาอาจรู้สึกทุกข์ใจ และนำไปสู่อาการซึมเศร้าได้ นักวิจัยได้ทำการศึกษาเรื่อง Nostalgia ในปีค.ศ. 2020 พบว่าการโหยหาอดีตอาจทำให้ผู้คนมีแนวโน้มที่จะประสบกับภาวะซึมเศร้า
แต่ในงานวิจัยบางชิ้นกล่าวว่าความเหงาและการคิดถึงอดีตมีความเกี่ยวข้องกันอย่างมีนัยสำคัญ ความเหงาอาจทำให้บุคคลนั้นประสบกับอาการต่าง ๆ หลายประการ รวมถึงภาวะซึมเศร้าด้วย
การคิดถึงหรือโหยหาอดีตเป็นองค์ประกอบที่สำคัญและดีต่อสุขภาพในประสบการณ์ชีวิตของมนุษย์ การระลึกถึงอดีตจะช่วยนำเราให้หวนคิดถึงตัวตนที่แท้จริงของเรา และเตือนเราว่าเป็นเราอย่างที่เคยเป็นมาตลอด
Links to related Sites:
- Feeling nostalgic? Your brain is hardwired to crave it, nationalgeographic
- Nostalgic depression: What is the link between nostalgia and depression?, medicalnewstoday
- That yearning feeling: why we need nostalgia, theguardian
- Anemoia: the psychology behind feeling nostalgic for a time you’ve never known, sciencefocus
I like to stay at home, writing random stuff and watching series. I enjoy learning new things and exploring new ideas.