มีบางสิ่งที่ทำให้คุณหนักใจอยู่หรือเปล่า? มันเป็นเรื่องยากที่จะมีความสุขกับสิ่งที่ไม่ถูกต้องในสังคม คุณอาจจะรู้สึกว่าตัวเองต้องคอยประนีประนอมอยู่เสมอ และไม่มีอะไรที่ทำให้คุณรู้สึกว่าดีพอ ในความเป็นจริงแล้วบางครั้งคุณไม่สามารถเลือกได้ว่าคนที่เข้ามาในชีวิตของคุณดีหรือไม่ดีกับคุณ บางทีอาจถึงเวลาแล้วที่ต้องหยุดพักการสานสัมพันธ์ต่อกับบางคน กลับมาทบทวนกับตัวเอง แล้วเลือกสร้างสัมพันธ์ที่ดีต่อสุขภาพของคุณ
เป็นเรื่องปกติของช่วงเวลาที่ต้องเผชิญหน้า เวลาที่ถอยออกมาจากปัญหา เวลาคืนดี และท้ายที่สุดช่วงเวลาที่เดินจากไป และบอกลา
ในทางกลับกัน ก็ยังมีคนชอบคุณในแบบที่คุณเป็น ดังนั้นใช้เวลากับคนเหล่านี้ให้มากขึ้น และอย่าคิดมากเกินไป ใครบ้างที่คุณควรรักษาเอาไว้ในชีวิต? นี่คือลักษณะของคนที่คุณควรปล่อยเขาไป
1.ความสัมพันธ์ที่ไม่มีความมั่นคงทางอารมณ์
คุณรู้สึกกลัวคนที่มีอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ นั่นเป็นเพราะคุณใส่ใจคน ๆ นั้นมากพอ คุณไม่รู้ว่าอะไรเป็นตัวกระตุ้นพวกเขา บางครั้งคน ๆ นั้นก็อาจจะดูเหมือนบ้าคลั่งอะไรสักอย่าง ซึ่งในระยะยาวความไม่มั่นคงทางอารมณ์นี้จะส่งผลกระทบต่อคุณไปด้วย และ่จบลงด้วยการทำให้คุณเสียขวัญและวิตกกังวลมากกว่าเดิม จากการที่ต้องต่อสู้กับการรักษาระดับอารมณ์ของตัวเองให้อยู่ในสภาวะปกติ
ดังนั้นจึงต้องอยู่ให้ห่าง เพื่อใช้เวลาสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองอีกครั้งก่อนจะติดต่อกับบุคคลดังกล่าว
2.ความสัมพันธ์ที่จัดการกับความโกรธของตัวเองไม่ได้
ไม่ต้องมีข้ออ้างอะไรเลย คนที่รักและชื่นชมคุณจะเลือกมองสิ่งที่ดีในตัวคุณ, ชื่นชมคุณ และจะพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองได้เมื่อมีอารมณ์โกรธมาก ๆ และพยายามหาทางขอโทษคุณและคืนดีกันให้เร็วที่สุด ทั้งสองฝ่ายนั้นต้องเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับเมื่อต้องพยายามซ่อมแซมความสัมพันธ์ ดังนั้นหากใครบางคนสูญเสียมันบ่อยครั้งจนไม่สามารถที่จะควบคุมความโกรธของตัวเองได้ เราก็ควรที่จะคิดทบทวนให้ดีว่ายังควรรักษาความสัมพันธ์นี้อยู่หรือไม่
บางคนไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลง มันคือเรื่องจริงที่คุณต้องประเมินสถานการณ์ของตัวเองให้รอบคอบ ลองคุยกับคนที่สามารถให้คำแนะนำดี ๆ กับคุณเพื่อช่วยให้คุณมีความคิดที่ปลอดโปร่งจากความรู้สึกขุ่นมัว ถอยออกมา อย่าปล่อยให้ตัวเองอารมณ์ฉุนเฉียว และทำพฤติกรรมที่ไม่มีเหตุผล
3.ความสัมพันธ์ที่ไม่ให้เกียรติ
นี่คือสถานการณ์ของการถูกเพิกเฉย ถูกเยาะเย้ยด้วยคำพูดหรือตกเป็นเป้าหมายของการถูกรังแก หรือแม้กระทั่งการเป็นเหยื่อที่มักถูกตำหนิ มันไม่ใช่ความผิดของคุณและถึงอย่างไรคุณก็ควรได้รับความเคารพด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นให้นำความต้องการของคุณกลับมา หากเห็นได้ชัดว่าเค้าดูหมิ่นคุณ จำเป็นอย่างยิ่งที่คุณต้องหัดพูดคำว่า “ไม่” ด้วยความมั่นใจ และถ้ามันไม่ได้ผลก็ให้เดินออกไปจากคนกลุ่มนี้
4.ความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยดราม่า
ไม่มีใครชอบคนที่มักเสพติดดราม่ามากเกินไป เพราะมันทำให้คุณเหนื่อยล้าและต้องยอมจำนนกับคนเหล่านั้น ดราม่านั้นมีสองประเภท มีทั้งแบบที่ตลกและไม่ตลก และเมื่อมันไม่ใช่ละครตลกคุณก็ต้องปิดทีวี ซึ่งหากมีบางคนที่ต้องการเป็นคนสำคัญ มักพูดมาก ชอบนินทา และบังคับให้คุณเห็นด้วย รวมถึงหาข้อแก้ตัวมากมายกับอะไรก็ตามที่คุณทำ อย่าโต้ตอบ แต่ให้แสดงท่าทีเย็นชา ไม่เห็นด้วยกับเขา และเมื่อเวลาผ่านไปจอมดราม่าคิงดราม่าควีนก็จะหาใครสักคนมาสร้างความบันเทิงแทน สิ่งที่ดีที่สุดก็คือคุณไม่จำเป็นต้องเผชิญหน้าเพื่อปฎิเสธ เพียงแค่หยุดการแสดงละครของพวกเขา
5.ความสัมพันธ์ที่คุณไม่ได้สนใจแล้ว
หากเค้าไม่รู้สึกสนใจในบางความสัมพันธ์ ก็ให้หยุดแกล้งทำเป็นว่าคุณยังสนใจเขาอยู่ คุณสามารถตัดสินใจได้ว่าคุณจะเป็นหรือไม่เป็นเพื่อนกับเขา และไม่ต้องรู้สึกผิดกับมันเมื่อเวลาผ่านไปคุณจะรู้สึกดีขึ้น มิตรภาพเก่า ๆ ที่ไม่สำคัญจะค่อย ๆ เลือนหายไป คุณจะไม่คิดทบทวนและคุณจะชอบตัวเองที่ไม่ต้องถูกบังคับให้คุยกับคน ๆ นั้น และไม่ต้องฝืนยิ้มปลอม ๆ อีก
6.ความสัมพันธ์ที่ชอบบงการ
หากคนที่คุณรู้จักชอบออกคำสั่งกับคุณให้ทำนั่นทำนี่ โดยที่คุณไม่สามารถคัดค้านได้ ให้คุณคิดถึงความสัมพันธ์แบบ 50 – 50 ที่ทั้งสองฝ่ายสามารถตัดสินใจได้อย่างยุติธรรม โดยที่คุณมีอำนาจที่จะให้และรับอย่างแท้จริง นั่นคือสิ่งที่คุณต้องตั้งเป้าหมายไว้กับตัวเองหากอยู่ใกล้กับคนที่ชอบบงการ
หากความสัมพันธ์ที่กล่าวมาข้อใดก็ตามที่ทำให้คุณนึกถึงคนที่คุณรู้จัก ก็คงต้องคิดทบทวนและเว้นระยะห่างระหว่างคุณกับบุคคลนั้นไว้บ้าง แม้ว่าจะเป็นคนในครอบครัว เพื่อน หรือแฟนก็ตาม วัตถุประสงค์ก็คือ การทำลายความสัมพันธ์บางอย่าง อาจทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นที่ได้สร้างความมั่นคงให้ตัวเองและความสัมพันธ์อื่น ๆ
คุณอาจไม่ใช่ฝ่ายที่ถูกตลอดเวลา แต่มันก็ไม่ต้องเจ็บปวดที่ต้องถอยกลับไปเจอกับความสัมพันธ์ที่ทำให้คุณหนักใจอีกครั้ง ทำในสิ่งที่ถูกต้องด้วยการตัดบางความสัมพันธ์ หรือแม้กระทั่งการตัดสินใจในเรื่องใหญ่ ๆ บางเรื่อง