ทุกปีจะมีผู้เสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดมากกว่า 610,000 คน และถ้าคุณไม่ต้องการเป็นหนึ่งในป่วยเป็นโรคหัวใจ เห็นทีว่าต้องลองเลี้ยงสุนัขแล้วล่ะ
ซึ่งผลการศึกษาใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Scientific Reports พบว่าเจ้าของสุนัขแทบไม่มีความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงไม่มีความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากโรคนี้ด้วย นักวิจัยชาวสวีเดนผู้อยู่เบื้องหลังการศึกษาได้ประเมินชาวสวีเดนที่มีอายุระหว่าง 40 – 80 ปี ที่มีประวัติว่าเป็นโรคหัวใจในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา พบว่าผู้ที่เลี้ยงสุนัขไม่ค่อยมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต ด้วยโรคที่กล่าวมาข้างต้น
การค้นพบจากผลการศึกษานี้ได้แนะนำเอาไว้ 3 ประการว่า คนที่ออกกำลังกายกับลูกสุนัขบ่อยกว่าจะมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเข้าสังคมมากกว่า ซึ่งนำไปสู่การมีอายุยืนขึ้น และมีความสุขกับชีวิตกว่า สอดคล้องกับที่ผู้เชี่ยวชาญท่านหนึ่งกล่าวว่า การแพร่กระจายเชื้อโรคด้วยการจูบน้องหมา หรือสัมผัสกับอุ้งเท้าที่สกปรกอาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายของคุณดีขึ้น นอกจากนี้น้องหมายังเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ หรือละลายพฤติกรรมให้กับคุณและคนแปลกหน้า นำไปสู่มิตรภาพและความรู้สึกที่ดีขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ผลการศึกษายังพบข่าวที่น่าตื่นเต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่คนเดียว สามารถลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ถึง 36% และลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตลง 33% รวมถึงโอกาสที่จะหัวใจวายก็ลดลง 11%
Myenya Mubagna หนึ่งในผู้เขียนรายงานกล่าวว่า สุนัขสามารถทำหน้าที่แทนคนรักได้ในรูปแบบการให้กำลังใจและคอยห่วงใยเจ้าของ ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่น่าสนใจก็คือ มันจะทำหน้าที่ปกป้องผู้ที่อาศัยอยู่ตามลำพัง (ซึ่งเป็นกลุ่มที่รายงานไปก่อนหน้านี้ว่ามีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดแล้วอยู่บ้านคนเดียว) มากกว่าผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านกันเป็นครอบครัวใหญ่ บางทีสุนัขอาจจะมีความสำคัญสำหรับการเป็นหนึ่งในสมาชิกของผู้ที่อยู่คนเดียวก็เป็นได้
ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า บ้านที่อยู่กันเป็นครอบครัวได้รับประโยชน์จากการเลี้ยงสุนัข แม้ว่าจะไม่เท่าคนโสด แต่บ้านที่อยู่กันเป็นครอบครัว ถ้าหากว่าเลี้ยงสุนัขก็สามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด 15% และลดการเสียชีวิตจากการมีโรคประจำตัวได้ 11% ดูเหมือนว่าสุนัขจะไม่ใช่เพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์เพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นยาที่ดีที่สุดของมนุษย์เช่นกัน 😀