สำหรับคอกาแฟ การดื่มกาแฟในทุก ๆ เช้าเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ บางคนชอบดื่มกาแฟร้อน ๆ แต่สำหรับบางคนต้องเป็นกาแฟเย็นเท่านั้น แต่..เคยสงสัยกันไหมว่า กาแฟร้อนหรือกาแฟเย็น แบบไหนดีต่อสุขภาพมากกว่ากัน
ผลการศึกษาจากวารสาร Scientific Reports โดยนักวิจัย Thomas Jefferson ณ ฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา ได้เปรียบเทียบความเป็นกรดและสารต้านอนุมูลอิสระของกาแฟร้อนและกาแฟเย็น เขาได้พูดถึงข้อดีของกาแฟร้อนว่า มันสามารถแสดงให้เห็นถึงระดับของสารต้านอนุมูลอิสระที่สูงกว่า อีกทั้งยังมีประโยชน์ด้านสุขภาพที่ได้รับจากการดื่มกาแฟ รวมทั้งยังได้รับความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและเบาหวานในระดับที่ต่ำกว่าอีกด้วย
ผลการศึกษานี้จึงแสดงให้เห็นว่า การดื่มกาแฟค่อนข้างส่งผลดีต่อผู้บริโภค อีกทั้ง Megan Fuller ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านเคมีที่เจฟเฟอร์สัน ยังได้ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า “ในกาแฟร้อนมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่า”
Niny Rao รองศาสตราจารย์ด้านเคมีได้เขียนอธิบายถึงผลการศึกษาว่า “การวิจัยเพิ่มเติมจะเป็นสิ่งจำเป็นที่ทำให้เราเข้าใจถึงความแตกต่างต่อผลกระทบด้านสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุณหภูมิและเวลาในการชงกาแฟ”
ทั้ง Fuller และ Rao ได้ค้นพบว่าสารต้านอนุมูลอิสระจากทั้งกาแฟร้อนและกาแฟเย็นไม่แตกต่างกันเท่าไรนัก แต่เดิมได้มีการค้นพบว่ากาแฟเย็นมีความเป็นกรดน้อยกว่ากาแฟร้อน ดังนั้นกาแฟเย็นจึงมีความอ่อนโยนต่อกระเพาะอาหารมากกว่า แต่ในผลการวิจัยใหม่พบว่า ระดับค่า pH ของกาแฟร้อนและกาแฟเย็นอยู่ในระดับ 4.85 ถึง 5.13 ที่ใกล้เคียงกัน
Frank Hu ศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยาและด้านโภชนาการจาก Harvard เคยบอกไว้ในนิตยสาร Health ว่าไม่ต้องกังวล เพราะการดื่มกาแฟเย็นก็ยังคงมีสารต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงมีสารเคมีที่มีคุณสมบัติที่ดีต่อสุขภาพอย่างพอลิฟีนอลและแร่ธาตุที่พบได้ในเครื่องดื่มร้อนเช่นกัน แต่ที่คนส่วนใหญ่มักรู้สึกไม่สบายใจเวลาที่ดื่มกาแฟเย็น เพราะว่าเวลาที่ชงกาแฟเย็น เรามักใส่ครีม นม หรือน้ำตาลในปริมาณมาก ทำให้เราได้รับไขมันหรือแคลอรี่มากกว่า
เพียงแค่อย่าใส่ นม น้ำตาล หรือครีมเยอะจนเกินไป จะทำให้เราได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายจากการดื่มกาแฟเย็นได้พอ ๆ กับกาแฟร้อนเลยทีเดียว