นครปฐมมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย อีกทั้งการเดินทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก เหมาะแก่การไปเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับเป็นที่สุด
สถานที่ท่องเที่ยวย่านบางเลน จังหวัดนครปฐมก็เช่นเดียวกัน หากขับรถผ่านมาที่ถนนเส้นนี้ก็จะพบกับสถานที่ท่องเที่ยวอย่างตลาดน้ำลำพญา บ้านรังนก เมืองรัตติยา ทุ่งบัวแดง ตลาดเก่าบางหลวง รศ. 112 ฯลฯ ซึ่งครั้งนี้เราจะแวะเพียง “บ้านรังนก” และ “เมืองรัตติยา” เท่านั้น เพราะอยู่ใกล้กัน ห่างกันแค่ประมาณ 200 เมตรเท่านั้น
บ้านรังนก
หลังจากที่เราค้นหาข้อมูลและปักหมุดจุดหมายปลายทางแล้ว การเดินทางมายังเส้นบางเลนทำให้เราพบกับตลาดบ้านรังนกก่อนเมืองรัตติยา เมื่อได้เข้ามาเที่ยวที่ตลาดแห่งนี้ก็พบว่าจุดเด่นของตลาดบ้านรังนกเป็นตลาดที่เน้นสินค้าออแกนิกและสินค้ารักษ์โลก แถมยังมีกิจกรรม workshop ที่เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัยอีกด้วย
เมื่อถึงบ้านรังนกให้เข้าไปจอดรถที่ถนนฝั่งตรงข้าม ที่นี่มีที่จอดรถที่กว้างขวางพอสมควร ให้เราสามารถเดินข้ามถนนเข้าไปที่ตลาดได้เลย (เห็นกำแพงส้ม ๆ ที่อยู่ลิบ ๆ ตามภาพด้านล่างไหม นั่นแหละ คือตลาดบ้านรังนก) เมื่อรับบัตรจอดรถแล้วก่อนกลับอย่าลืมประทับตราจอดรถฟรีกันด้วยนะ สามารถประทับตราจอดรถได้ที่กองอำนวยการตลาด ร้านสุขวันละนิด หรือร้านบ้านนกคอฟฟี่ ถ้าไม่มีตราประทับเสียค่าที่จอดรถยนต์ 20 บาทจ้า
เข้ามาด้านในแล้วตลาดกว้างพอสมควร
มีสินค้าราคาท้องถิ่นขาย ตลาดดูคึกคักกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็นอาหารต่าง ๆ รวมถึงผัก ผลไม้ที่พ่อค้าแม่ค้าปลูกเองแบบออแกนิก มีต้นไม้ มีสินค้าทำมือ อย่างเช่น เสื้อผ้ามัดย้อม กระเป๋าสาน เป็นตลาดที่น่าเดินมาก ๆ
รวมถึงมีโซนกิจกรรม workshop ให้เราได้ร่วมกิจกรรมด้วย วันที่เราไปก็มีผู้สูงอายุมานั่งเพ้นท์กระเป๋าผ้า อยู่ที่โต๊ะด้านหลังเราด้วย
ส่วนเราเลือกเพ้นท์กระถางดีกว่า เพราะชอบต้นไม้อยู่แล้วด้วย
เมื่อเลือกทรงกระถางได้แล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะเตรียมสี พู่กัน น้ำล้างพู่กัน และผ้าเช็ดพู่กันให้
ลงมือเพ้นท์กันเลย มาบ้านรังนกก็เลยวาดรูปนกซะเลย อิอิ
ใช้เวลาไม่นานนักเราก็เพ้นท์กระถางเสร็จ เจ้าหน้าที่บอกว่ามีต้นมะลิแถมให้ด้วย โดยจะปลูกลงกระถางให้เลย ระหว่างรอเขาปลูกให้ก็เลยฝากเอาไว้ก่อนเดี๋ยวกลับมาเอา เพราะต้องถือกลับทั้งกระถาง ฮาาาาาา ┌( ಠ‿ಠ)┘
ที่จริงมีมุม workshop อีกอย่างด้วยนะ คือ การทำเก้าอี้เปเปอร์มาเช่ให้กับเด็กด้อยโอกาสแต่น่าเสียดายวันที่เราไปคนที่คุมกิจกรรมนี้ไม่อยู่ ก็เลยไม่ได้เปิดให้ทำ สงสัยต้องมาซ้ำวันหลังแล้วแหละ
หน้าตาตอนที่เขาปลูกต้นไม้ลงกระถางให้เราเสร็จแล้วจะเป็นแบบนี้
เนี่ยมีมุมถ่ายรูปสวย ๆ เยอะเลย ต้นไม้ก็งามมมม
ปลูกผักสลัดกันแบบนี้เลย .ʕʘ‿ʘʔ.
มีลานขุดทรายแล้วก็มีชุดตักทรายให้เด็ก ๆ ได้เล่นกันอย่างเพลิดเพลินด้วย
ระหว่างที่รอต้นไม้ เราเลยเข้ามาหาอะไรทานที่บ้านนกคอฟฟี่ระหว่างรอ
พนักงานที่นี่น่ารักจริงใจมาก เรื่องมีอยู่ว่า เราสั่งขนมที่อยู่ในตู้ซึ่งขนมที่เราสั่งนั้นเป็นขนมที่ค้างคืนเอาไว้หลายวัน พนักงานเขาก็บอกเราตรง ๆ ว่าหัวหน้าไปต่างประเทศก็เลยยังไม่ได้มีคำอนุมัติว่าจะต้องนำขนมออกจากตู้ จึงแนะนำขนมอีกอย่างให้แทน 555 เราก็เลยสั่งขนมอีกอย่างมาแทน (｡￫∀￩｡)
ซึ่งขนมที่เราสั่งมาแทนก็คือครัวซองแฮมชีส แล้วก็สั่งโกโก้ร้อน และมอคค่าเย็นมาดื่มคู่กัน
เมื่อทานขนมเสร็จก็ออกมาเดินเล่นถ่ายรูปบริเวณรอบ ๆ เจอบ้านรังนกด้วย น่ารักจังอันนิดเดียว ห้องน้ำที่นี่ก็ทำดีมาก สะอาดสะอ้าน กว้างขวาง (ไม่ได้ถ่ายรูปมานะ)
เมื่อเดินไปฝั่งตรงข้ามร้านกาแฟก็จะเจอกับร้านสุขวันละนิด เป็นร้านที่รับซื้อและขายสินค้ามือสอง สามารถประทับตราบัตรจอดรถที่นี่ได้เช่นกัน
ที่ริมคลองตลาดบ้านรังนกมีศาลาให้นั่งและมีมุมถ่ายรูปสวย ๆ อื่น ๆ เช่นกัน หากใครอยากลองมาสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ก็ลองมาเที่ยวที่บ้านรังนกกันได้ ที่นี่เปิดให้บริการเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์ ตั้งแต่ 9.00 น. – 17.00 น.
เมืองรัตติยา
เมื่อออกจากตลาดรังนกมาแล้ว ใกล้ ๆ กันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นาน จากแต่เดิมเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่อง “ศรีอโยธยา” โดยเจ้าของโครงการคือ คุณรัตติยา ศรีสงวนนาวา ที่ร่วมสร้างและเอื้อเฟื้อที่ดินส่วนตัวให้สร้างเป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์ถาวร เมื่อถ่ายทำเสร็จจึงเปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแนวย้อนยุค เมืองรัตติยา นั่นเอง
เมื่อเดินเข้ามาก็จะพบกับรูปปั้นกินรีมัจฉาอยู่ตรงประตูทางเข้าหลักของเมืองรัตติยา
ตอนที่เราไปถึงอาจจะเช้าเกิน ยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเท่าไรนัก ร้านค้าก็เพิ่งเปิดเพียงไม่กี่ร้านก็เลยไม่ได้ถ่ายภาพแถวร้านค้ามา
ป้อมปราการกำแพงเมืองท่าประตูชัยที่ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำท่าจีน เป็นอีกมุมที่พลาดไม่ได้ ต้องมาถ่ายรูปเมื่อมาเที่ยวที่เมืองรัตติยา
ที่นี่มีร้านให้เช่าชุดไทยด้วย อยากถ่ายรูปแบบย้อนยุคจัดเต็มก็สามารถเข้ามาเช่าชุดได้ที่นี่เลยจ้า
สะพานแดงอีกมุมยอดฮิตที่คนนิยมมาถ่ายรูปกัน
แม้ว่าตอนที่เราไปจะยังไม่ค่อยมีคน แต่ก็มีเสียงเพลงขับกล่อมโดยคุณลุงท่านนี้ที่มายืนร้องเพลงเพื่อการกุศลสำหรับสร้างโบสถ์
เมืองรัตติยาเปิดให้ตั้งแต่ 8.00 น. -17.30 น. แต่เราว่ามาตอนเย็น ๆ หน่อยจะร่มรื่นและของก็น่าจะขายเยอะกว่านะ ซึ่งหากขับรถผ่านเส้นบางเลน ก็ลองแวะเที่ยวทั้ง “บ้านรังนก” และ “เมืองรัตติยา” กันดูจ้าาา
*********************************************