เราทุกคนรู้ดีถึงประโยชน์ของการออกกำลังกาย แต่สำหรับคนที่ไม่ได้ชอบเล่นกีฬา การจะออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและสนุกกับมันนั้นเป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่ง ความเจ็บปวด ปวดเมื่อย และเหนื่อยล้าทางร่างกาย บวกกับความรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้มากเท่าที่ควร ล้วนทำให้การออกกำลังกายและเล่นกีฬากลายเป็นประสบการณ์ที่น่าเบื่อหน่าย

1.เริ่มต้นช้า ๆ วันละนิด ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย

เมื่อเราตัดสินใจเริ่มออกกำลังกาย หลายคนมักจะรีบไปสมัครฟิตเนสหรือซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายราคาแพง พร้อมกับตั้งปณิธานว่าจะออกกำลังกายทุกวัน คุณอาจเข้าฟิตเนสหรือใช้อุปกรณ์ที่ซื้อมาเพียง 2-3 ครั้ง และหมดแรงจูงใจในการออกกำลังกายอย่างรวดเร็ว อย่าผูกมัดตัวเองไว้กับการออกกำลังกายอย่างสุดโต่ง การบังคับตัวเองให้ออกกำลังกายวันละ 1 ชั่วโมงอาจดูเป็นเรื่องที่ท้าทายในตอนแรก แต่การบังคับตัวเองให้ออกกำลังกายเพียง 10 นาที 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์จะทำได้ง่ายกว่า เมื่อคุณออกกำลังกายเป็นประจำในช่วงเวลาสั้น ๆ จนกระทั่งกลายเป็นนิสัย การออกกำลังกายที่หนักขึ้นในครั้งต่อไปก็จะทำได้ง่ายขึ้น

2.เปลี่ยนบรรยากาศ

หากคุณเบื่อกับสภาพแวดล้อมเดิม ๆ อีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจไม่ให้คุณรู้สึกเบื่อคือ การมองหาสถานที่ใหม่ ๆ ในการออกกำลังกาย เลือกจุดหมายปลายทางใหม่ ๆ เพื่อวิ่งเหยาะ ๆ ปั่นจักรยาน หรือเดินป่า การมีจุดหมายใหม่ ๆ จะช่วยเปลี่ยนบรรยากาศให้คุณรู้สึกกระตือรือร้นมากยิ่งขึ้น

3.ทำให้การออกกำลังกายเป็นกิจกรรมทางสังคม

การออกกำลังกายเป็นช่วงเวลาที่สนุกสนานในการเข้าสังคมกับเพื่อน ๆ การออกกำลังกายกับคนอื่นๆ สามารถช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้คุณได้ ลองชวนคนรัก เพื่อนสนิท หรือรวมกลุ่มกับคนที่รักการออกกำลังกายเช่นเดียวกันกับคุณมาออกกำลังกายด้วยกัน การได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับคนที่มีความสนใจไปในทางเดียวกันจะช่วยให้คุณรู้สึกสนุกไปกับการออกกำลังกาย และสร้างแรงจูงใจให้คุณอยากออกกำลังกายมากยิ่งขึ้น

4.โฟกัสที่การพัฒนา ไม่ใช่การลดน้ำหนัก

การลดน้ำหนักเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ออกกำลังกาย ซึ่งต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะเห็นผล การจดจ่ออยู่กับตาชั่งจะทำให้การออกกำลังกายเครียดและท้อแท้ สิ่งที่จะทำให้การออกกำลังกายเป็นประสบการณ์ที่สร้างแรงบันดาลใจมากขึ้นคือการมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาตัวเองแทน! ชื่นชมตัวเองและรู้สึกภูมิใจกับทุกการพัฒนาแม้เพียงเล็กน้อย เช่น ออกกำลังกายได้มากขึ้นกว่าเดิม หรือแม้แต่การขึ้นบันไดหลายขั้นได้โดยไม่เหนื่อยหอบ

5.ทำกิจกรรมที่ชอบควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย

มีกิจกรรมมากมายที่ถือว่าเป็นการออกกำลังกาย เคล็ดลับคือการหาสิ่งที่คุณชอบและกระตุ้นให้คุณกระตือรือร้น การจับคู่การออกกำลังกายควบคู่ไปกับการทำกิจกรรมอื่น ๆ จะทำให้การออกกำลังง่ายและสนุกยิ่งขึ้น เช่น การเปิดเพลงโปรดและเต้นไปพร้อม ๆ กันกับลูก, เดินบนลู่วิ่งหรือเครื่องปั่นจักรยานพร้อมกับฟังเพลงไปด้วย, ขยับร่างกายระหว่างดูทีวีรายการโปรด อย่างการวิดพื้น ซิทอัพ หรือยกเวทเบา ๆ ระหว่างช่วงโฆษณา คุณจะประหลาดใจกับจำนวนครั้งในการทำซ้ำ ๆ ระหว่างช่วงโฆษณาของรายการ นอกจากนี้การไปเข้าคลาสโยคะ หรือไปออกกำลังกายกับเพื่อน แล้วหลังจากนั้นจึงชวนกันไปดื่มกาแฟหรือดูหนัง เป็นต้น

6.ขยับร่างกายให้มากขึ้นในชีวิตประจำวัน

หากคุณยังไม่พร้อมที่จะออกกำลังกายอย่างจริงจัง ให้ลองนึกถึงกิจวัตรประจำวันของตัวเอง และหาวิธีเพิ่มกิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ เข้าไปเมื่อสะสมรวมกันไปตลอดทั้งวันก็เหมือนกับว่าคุณได้ออกกำลังกายจำนวนมากตลอดทั้งวัน เช่น ทำความสะอาดทั้งภายในบ้านและบริเวณโดยรอบ ทั้งล้างรถ ตัดหญ้า กวาดลานบ้าน หรือแม้แต่ในระหว่างที่เดินทางไปทำธุระข้างนอก ก็ให้ลองเลือกการปั่นจักรยาน หรือเดินเท้าไปยังจุดหมายปลายทางแทนการขับรถ ใช้บันไดแทนการใช้ลิฟท์ เดินเล่นหรือวิ่งเหยาะ ๆ รอบสนามฟุตบอลระหว่างที่ลูกซ้อม

7. ตั้งเป้าหมายและให้รางวัลตัวเอง

การให้รางวัลตัวเองเมื่อบรรลุเป้าหมายการออกกำลังกายเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาแรงจูงใจ ตั้งเป้าหมายที่ทำได้จริงถึงการมีส่วนร่วมและความพยายามของตนเอง โดยที่ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นเพียงจำนวนครั้งที่คุณยกน้ำหนักได้, ระยะทางที่ปั่นจักรยานได้, หรือน้ำหนักที่คุณลดได้ หากความพยายามของคุณสะดุดให้ตั้งสติและเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ให้รางวัลตัวเองเมื่อบรรลุเป้าหมาย เช่น รองเท้าคู่ใหม่ อาหารเย็นที่พิเศษกว่าปกติ หรืออะไรก็ได้ที่ช่วยกระตุ้นคุณ

การออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ การเคลื่อนไหวร่างกายในรูปแบบต่าง ๆ จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น ลดความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ และช่วยให้จิตใจผ่อนคลาย😃