25 ซีรีส์ญี่ปุ่นแนะนำ เก่าแต่เก๋า ดูกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อ

หากใครกำลังหาซีรีส์ญี่ปุ่นเอาไว้ดูเพลิน ๆ ในวันหยุดลองดูทั้ง 25 เรื่องที่เราเลือกมาเล่าในบทความนี้ดู ถึงแม้ว่าจะเป็นซีรีส์เก่าแต่ก็ยังคงสร้างความประทับใจ ดูกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อ บางเรื่องก็เป็นเรื่องโปรดของเราเลย เนื่องจากมีนักแสดงที่ชอบอยู่ในนั้น (อาจจะมีการอวยกันเกินเบอร์นิดหน่อยต้องขออภัยไว้ล่วงหน้า (◡‿◡✿)) แต่เนื้อเรื่องของซีรีส์ญี่ปุ่นส่วนใหญ่มันก็ดีจริง ๆ ถ้าไม่เล่นใหญ่ไว้ก่อน เนื้อเรื่องก็มีความสมจริง แถมดูแล้วยังได้ข้อคิดอีกด้วย รับรองว่าสนุกทุกเรื่อง

ถ้าพร้อมแล้วมาดูที่เรื่องแรกกันเลย

1.14-sai no Haha

เรื่องราวของ “มิกิ” คุณแม่วัย 14 ปี ที่พลาดไปมีความสัมพันธ์เกินเลยกับแฟนหนุ่มที่เพิ่งจะคบกันได้ไม่นาน มิกิเป็นเด็กร่าเริง เป็นดีเจของโรงเรียน เมื่อเธอตั้งท้องเธอตัดสินใจเก็บลูกของเธอเอาไว้ แม้ว่าจะมีทั้งเสียงคัดค้านไม่เห็นด้วย ในระหว่างที่เธอตั้งครรภ์เธอต้องพบกับอุปสรรคมากมาย ทั้งที่โรงเรียน ครอบครัว สายตาของผู้คนรอบ ๆ ตัว และการที่จะต้องเป็นคุณแม่ก่อนวัยอันควร ปัญหาต่าง ๆ ที่มิกิเผชิญนั้นไม่ง่ายเลย นอกจากมิกิแล้ว ด้านแฟนหนุ่มก็ต้องพบเจอกับปัญหาไม่ต่างกัน จากความกดดันที่แม่อยากให้เขาประสบความสำเร็จ แต่เขาก็อยากจะรับผิดชอบเด็กในท้องร่วมกับมิกิ เราคนดูก็ลุ้นเอาใจช่วยทั้งมิกิ แฟนหนุ่ม และครอบครัวของทั้งสองฝ่ายจนจบเรื่อง นับว่าเป็นซีรีส์อีกเรื่องที่เก็บรายละเอียดได้ดีมาก ๆ ฉากที่ดูไม่มีอะไรอย่างฉากตัดผมของนางเอกก็เป็นฉากที่สื่อถึงเวลาที่ผ่านไปเรื่อย ๆ พร้อม ๆ กับท้องของนางเอกที่โตขึ้นเรื่อย ๆ ได้เป็นอย่างดี นำแสดงโดย Shida Mirai และ Haruma Miura 

2.The Queen’s Classroom

The Queen’s Classroom เวอร์ชันญี่ปุ่น เรื่องราวเกี่ยวกับโรงเรียนประถมที่ดาร์กกว่าที่คุณคิด โดยเป็นเรื่องราวของคุณครู Maya Akutsu (รับบทโดย Yuki Amamiที่ถูกพักการสอนไป 2 ปี  กลับมาสอนใหม่ที่โรงเรียนประถมแหงหนึ่งด้วยวิธีการที่โหดกว่าเดิม ในวันเปิดเทอมวันแรก Kazumi Kanda (รับบทโดย Shida Mirai) นักเรียนชั้นป.6/3 ที่ฝันอยากจะได้ครูประจำชั้นใจดี แต่ก็ต้องฝันสลายเมื่อคุณครูเดินเข้าห้องมาพร้อมกับการจัดสอบ และคนที่ได้ที่โหล่ 2 คนสุดท้ายจะต้องเป็นตัวแทนห้องที่เหมือนเป็นเบ๊ของคนอื่นนั่นเอง ส่วนคนที่ได้ลำดับต้น ๆ ก็จะได้รับอภิสิทธิ์ที่เหนือกว่าคนอื่น ตลอดทั้งเรื่องหลายคนอาจสงสัยเกี่ยวกับความเข้มงวดของคุณครูคนนี้ ซึ่งในตอนพิเศษ 2 ตอนสุดท้ายเราจะได้คำตอบว่าทำไมครูถึงกลายเป็นคนที่เย็นชานัก เป็นอีกเรื่องที่อยากแนะนำให้ดู เราดูซ้ำหลายรอบเลย ในเรื่องนี้แฝงไปด้วยปัญหาของเด็ก ๆ ทั้งการบูลลี่ ความอยากเป็นที่ยอมรับของผู้อื่น มิตรภาพ หรือแม้แต่เรื่องของเด็กที่มีปัญหากับครู ลองดูกันค่ะ 

3.Seigi no Mikata

เรื่องราวที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนเรื่อง Ally of Justice เกี่ยวกับพี่สาวตัวแสบที่ใช้งานน้องเยี่ยงทาสกับน้องสาวผู้แสนดีและยอมพี่มาตลอด มักโดนพี่สาวเอาเปรียบอยู่เสมอ ซึ่งทั้งพ่อแม่และคนรอบ ๆ ตัวก็มักจะมองว่าพี่สาวเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ ทั้งสวย ทั้งเก่ง เรียนจบจากมหาวิทยาลัยดัง ทำงานมีหน้ามีตา มีแค่น้องสาวของเธอคนเดียวที่ไม่รู้สึกแบบนั้น ไม่ว่าพี่สาวต้องการอะไร ก็ให้น้องสาวทำให้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการไปต่อแถวยาวเหยียดเพื่อซื้อข้าวกล่อง ไปสืบประวัติอย่างละเอียดของคนที่ชอบ การชื่นชอบอะไรแปลกๆ ของพี่สาว แต่น้องสาวต้องกลายเป็นคนรับหน้าแทนทุกครั้ง หรือแม้แต่ให้น้องทำงานบ้านให้ แต่ตัวเองสมอ้างว่าทำเอง นอกจากนี้เวลาที่พี่สาวจะทำอะไรโชคก็มักเข้าข้างเสมอ เป็นซีรีส์ที่สนุกมาก ๆ แค่ชื่อนักแสดงก็การันตีความสนุกแล้ว ทั้ง Yu Yamada ที่รับบทเป็นพี่สาว และ Shida Mirai รับบทเป็นน้อง นอกจากนี้ยังมีนักแสดงคนอื่น อาทิ Osamu Mukai และ Kanata Hongo สนุกมาก ๆ ขำในความเล่นใหญ่ของนักแสดง 😂😂😂

4.Shokojo seira

เรื่องราวแนวเทพนิยายฉบับญี่ปุ่นของเจ้าหญิงน้อยเซอิระ (รับบทโดย Shida Mirai เช่นเคย อิอิ (≧◡≦)) คุณหนูผู้ร่ำรวยจากอินเดีย เดินทางมาเข้าเรียนที่โรงเรียนไฮโซญี่ปุ่นที่คุณแม่ของเธอเคยจบการศึกษามา พร้อมทั้งบริจาคเงินก้อนโตให้โรงเรียนด้วย แต่แล้ววันหนึ่งคุณพ่อของเซอิระเสียชีวิตกระทันหัน บริษัทล้มละลาย เธอสิ้นเนื้อประดาตัว ผู้อำนวยการที่แอบเกลียดเธอเป็นทุนเดิม (ผู้อำนวยการเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นกับแม่) ก็เลยให้เธอเป็นคนใช้ในโรงเรียนแห่งนี้เพื่อใช้หนี้สินทั้งหมดซะ! แม้ว่าจะเป็นเรื่องราวที่นิยายมาก ๆ แต่มันก็มีข้อคิดนะ เพราะทุกคนต่างมีความงดงามอยู่ในตัวเอง อย่างน้อยในวันที่เราอับจนหนทางที่สุด ก็อย่ายอมแพ้ สู้กับปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง

5.Gokusen

ครูสาวยากูซ่า หรือ ลูกสาวเจ้าพ่อขอเป็นครู เป็นซีรีส์ที่ดัดแปลงมาจากมังงะ เรื่องราวของลูกสาวเจ้าพ่อ (รับบทโดย Nakama Yukie) ที่ได้ไปประจำชั้นเด็กนักเรียนสุดเฮี้ยวห้อง 3D ห้องที่ขึ้นชื่อเรื่องความแสบซ่า นอกจากจะต้องกำราบนักเรียนจอมเฮี้ยวและคอยจัดการปัญหาต่างๆ ของนักเรียนแล้ว ยังต้องปกปิดตัวตนของตัวเองที่เป็นลูกสาวยากูซ่าไม่ให้คนที่โรงเรียนรู้อีกด้วย ซึ่งแม้ว่ารายละเอียดปลีกย่อยระหว่างมังงะกับในซีรีส์จะมีหลายจุดที่แตกต่างกัน แต่ประเด็นหลัก ๆ ก็คือการที่ครูสาวลูกเจ้าพ่อยากูซ่าอยากจะขัดเกลานักเลง เอ้ย! นักเรียนให้เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ดีมีคุณภาพนั่นแหละ

6.Hana Yori Dango

ซีรีส์ที่สร้างจากการ์ตูนชื่อดังของญี่ปุ่น หากใครเคยดูรักใส ๆ หัวใจ 4 ดวงของไต้หวันที่เคยฮิตมาก ๆ ในบ้านเราเมื่อสิบกว่าปีก่อน เรื่องนี้เป็น F4 เวอร์ชันญี่ปุ่น ซึ่งก็ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว เนื้อเรื่องย่อคงไม่ต้องอธิบายมากเชื่อว่าหลาย ๆ คนที่เป็นแฟนพันธ์แท้ F4 น่าจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว ส่วนเรื่องกระแสตอบรับเวอร์ชันญี่ปุ่นหลาย ๆ คนทั้งชาวญี่ปุ่นและประเทศอื่น ๆ ต่างก็ตกหลุมรัก F4 เวอร์ชันนี้ไปตาม ๆ เพราะรายละเอียดต่าง ๆ ใน ver.ญี่ปุ่นนั้นทำออกมาได้เหมือนต้นฉบับที่เป็นการ์ตูนมากจริง ๆ

7.Ichi Rittoru no Namida

ซีรีส์ที่มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริง ถูกดัดแปลงจากไดอารีของเด็กสาวที่ป่วยเป็นโรค “spinocerebellar degeneration” หรือโรคที่ภาวะสมองส่วนแกนและไขสันหลังเสื่อม ทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายได้ โดยอาการของโรคนี้จะทำให้ร่างกายค่อย ๆ ทรุดลงอย่างช้า ๆ เริ่มจากเดินเซ ตาพร่า กะระยะโดยสายตาคาดเคลื่อน เริ่มควบคุมร่างกายตามที่สมองสั่งไม่ได้ การพูดก็จะเริ่มลำบากมากขึ้น และในระยะสุดท้ายก็คือพูดไม่ได้ เดินเองไม่ได้ เขียนหนังสือไม่ได้ ต้องนอนอยู่บนเตียงเฉย ๆ หากใครได้ดูเรื่องนี้จะเห็นถึงความสู้ชีวิตของเด็กสาวกับอาการป่วยที่เกิดขึ้นกับตัวเองอย่างช้า ๆ รวมถึงกำลังใจที่ดีจากครอบครัวและคนที่รักเขาอีกด้วย คำเตือน: อาจเสียน้ำตาเป็นปี๊ป ๆ (เหมือนกับชื่อเรื่องที่ให้ชื่อไทยว่า บันทึกน้ำตาหนึ่งลิตร) ให้กับซีรีส์เรื่องนี้ได้ (มันเศร้าจริง ๆ นะเออ) แต่เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่ดีมาก ๆ จริง ๆ แนะนำให้ดูเลย

8.Tantei Gakuen Q

โรงเรียนนักสืบคิวจากการ์ตูนนักสืบของญี่ปุ่นสู่ซีรีส์เรื่องยาว เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเด็ก 5 คนที่สอบเข้า DDS โรงเรียนนักสืบชื่อดังของ ดัน โมริฮิโกะ เพื่อให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ Q class (เด็กที่มีคุณสมบัติพิเศษ) ทำให้พวกเขาต้องทำการทดสอบกับ ดัน โมริฮิโกะ นักสืบชื่อดังโดยตรง ซึ่งก็ให้เด็ก ๆ สืบคดีต่าง ๆ โดยที่เด็กแต่ละคนก็จะมีความสามารถพิเศษที่แตกต่างกันออกไป

  • คิว (รับบทโดย Ryunosuke Kamiki) เด็กหนุ่มผู้เฉลียวฉลาด มีสติปัญญาหลักแหลม เขามุ่งมั่นอยากจะเป็นนักสืบเหมือนกับคนที่เขาเคยเจอตอนเด็ก ๆ แต่หารู้ไม่ว่าคนที่เคยเจอนั้นคือพ่อของตน
  • เมงุ (รับบทโดย Shida Mirai ≧◡≦) เพื่อนในห้องเรียนเดียวกับคิว ความสามารถพิเศษคือเป็นคนความจำดี แม้จะเป็นสิ่งที่เห็นเพียงชั่วครู่ ทำให้เธอมีส่วนช่วยในเรื่องคดีอย่างมาก
  • ริว (รับบทโดย Yamada Ryosuke จาก Hey! Say! JUMP) เด็กชายผู้สุขุม เยือกเย็น มีสายเลือดเดียวกับคิงฮาเดส ศัตรูของอาจารย์ดัน มีความสามารถรอบด้าน เก่งทั้งด้านกีฬา และมีความรู้กว้างขวาง ที่คิงฮาเดสให้ริวมาเรียนที่นี่เพราะจุดประสงค์บางอย่าง..
  • คินตะ (รับบทโดย Kaname Jun) คินตะเป็นเหมือนกำลังของกลุ่ม เป็นนักสืบที่ชอบเสี่ยงดวงในการช่วยสืบคดีเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้คินตะยังมีความสามารถทางด้านกีฬา และมีความสามารถในการดมกลิ่นเทียบเท่าระดับสุนัขอีกด้วย!
  • คาซึมะ (รับบทโดย Wakaba Katsumi) โปรแกรมเมอร์รุ่นเยาว์ที่ความสามารถไม่เด็กเหมือนอายุ เป็นนักสืบที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการสืบหาข้อมูลสำคัญในคดีต่าง ๆ นอกจากนี้คาซึมะยังเชี่ยวชาญทางด้านการถอดรหัสลับที่หาตัวจับได้ยาก

9.Sukurappu Tiichaa-Kyoushi Saisei (Scrap Teacher)

เรื่องราวของนักเรียนมัธยมปลาย “Super Jonior Kaksei” หรือ สุดยอดนักเรียน (รับบทโดย Yamada Ryosuke, ChineYuri และ Arioka Daiki) ที่ย้ายเข้ามากลางเทอมเพื่อจัดการกับครูที่ทำตัวยอดแย่  เนื่องจากโรงเรียนกำลังจะถูกปิดทำให้คุณครูไม่สนใจนักเรียนมัวแต่จะหางานใหม่ ทำให้เด็กนักเรียนเริ่มเกเร ไม่สนใจเรียน แต่ทั้งห้องยังมีเด็กคนหนึ่งที่ขยันเรียนซึ่งก็คือ Kusaka (รับบทโดย Nakajima Yuto) ทำให้ถูกเพื่อน ๆ รุมแกล้ง พอสุดยอดนักเรียนย้ายเข้ามา โรงเรียนก็เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางดีขึ้น ใครเป็นแฟนคลับของ Hey! Say! JUMP ห้ามพลาดเรื่องนี้เลยจริง ๆ เพราะทั้ง 4 คนได้รับบทเด่น เป็นตัวละครหลักของเรื่องเลยล่ะ แถมเพลงประกอบซีรีส์ยังเป็นเพลงของเฮย์เซย์จัมพ์อีก แนะนำให้ดูเลย

10.Sensei wa erai

ละครสั้นที่มีนักแสดงนำโดย 4 หนุ่มจาก Hey! Say! JUMP ทั้ง Yamada Ryosuke, Chinen Yuri, Arioka Daiki และ Nakajima Yuto  ชุดเดียวกันกับเรื่อง Scrap Teacher เลย โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโชตะ (รับบทโดย Nakajima Yuto) เด็กม.ต้นที่อยากจะโตเป็นผู้ใหญ่เลยไปหาซื้อกางเกงในกับเพื่อนซึ่งก็คือ Chinen กับ Daiki แล้วหลงทางก็เลยไปเจอกับกุนโจ (รับบทโดย Yamada Ryosuke) เพื่อนเก่าที่ไม่ถูกกันสมัยประถม กุนโจเป็นเด็กมีฐานะดีอยู่โรงเรียนชั้นนำ ก็คุยโวถึงครูประจำชั้นตัวเองว่าเป็นครูต่างชาติที่ยอดเยี่ยมมาก โชตะก็เลยโม้กลับไปบ้าง ทำให้กุนโจอยากเจอครูของโชตะ และแม้ว่าเด็ก ๆ จะอยากเปลี่ยนครูสักแค่ไหน แต่ถ้าตัวนักเรียนไม่ขวนขวายด้วยตัวเอง ไม่ยอมตั้งใจเรียน ต่อให้ได้ครูที่เก่งแค่ไหนมาสอนก็ไม่สามารถสอนนักเรียนให้เก่งขึ้นได้

11.Papa to Musume no Nanokakan

หรือมีชื่อไทยว่า 7 วันป๊ะป๋ากับลูกสาว เป็นเรื่องราวของคุณพ่อลูกคู่หนึ่งที่ไม่ค่อยสนิทกัน วันหนึ่งพ่อลูกได้กินลูกพีชในตำนานที่คุณยายได้ให้ไว้กินตอนนั่งรถไฟกลับบ้านทำให้ทั้งสองสลับร่างกัน คุณพ่อต้องมาใช้ชีวิตแบบนักเรียนสาวมัธยมปลาย ส่วนคุณลูกก็ต้องกลายเป็นพนักงานชายวัยกลางคน เรื่องราววุ่น ๆ จึงบังเกิด.. นำแสดงโดย Hiroshi Tachi รับบทเป็นคุณพ่อ และ Yui Aragaki  รับบทเป็น ลูกสาววัยรุ่น

12.Gakko ja Oshierarenai!

เรื่องราวของครูสอนภาษาอังกฤษในโรงเรียนมัธยมสตรีเก่าแก่แห่งหนึ่งประสบปัญหานักเรียนมีจำนวนน้อยลง ทำให้ทางโรงเรียนทดลองรับนักเรียนชายเข้าเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ ซึ่งรุ่นแรกมีจำนวน 5 คน ในขณะที่ยังคงมีนักเรียนหญิงอยู่ถึง 600 คน ดังนั้นคุณครู Mai (รับบทโดย Kyoko Fukada ) พยายามช่วยเหลือนักเรียนชายทั้ง 5 ให้ปรับตัวเข้ากับนักเรียนหญิงได้ด้วยการก่อตั้งชมรมลีลาศสากลขึ้นมา และดึงเอานักเรียนหญิง 5 คนที่ยังไม่ได้เข้าชมรมไหน มาเข้าร่วม โดยที่ละครจะโฟกัสอยู่ที่ความสัมพันธ์ของนักเรียนชายหญิงกลุ่มนี้ โดยที่มีคุณครูที่รับบทโดยเคียวโกะช่วยดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิดเปรียบเสมือนเพื่อนคนหนึ่งด้วย

13.Yamada Taro Monogatari

หากใครเคยดูเทพบุตรถังแตก ver.ไต้หวันแล้ว อยากให้ลองมาดู ver.ญี่ปุ่นกัน ซึ่งทั้งสองเวอร์ชันตีความออกมาไม่เหมือนกัน ของญี่ปุ่นจะซึ้งและน่าสงสารกว่า ส่วนของไต้หวันมุกตลกจะแพรวพราวกว่า โดยเทพบุตรถังแตกเวอร์ชันนี้รับบทนำโดย นิโนะ (Ninomiya Kazunari) จากวงอาราชิ (นอกจากนี้ยังมีสมาชิกคนอื่น ๆ อย่าง Sakurai Sho มาร่วมแสดงด้วย) เป็นเรื่องราวของหนุ่มยากจนที่สาว ๆ ในโรงเรียนหมายปองเพราะคิดว่าเป็นคนรูปหล่อ พ่อรวย  ซึ่งสาว ๆ ในจำนวนนั้นมีสาวรุ่นเดียวกันที่มีฐานะยากจนเหมือนกัน แต่เธอเกลียดฐานะยากจนของตัวเอง เธอชอบพระเอกเพราะคิดว่าเขารวยแต่เมื่อรู้ว่าพระเอกบ้านจนและน่าสงสารกว่าเธอซะอีก ทำให้เธอพยายามตัดใจจากเขา

14.Stand up

เรื่องราวของนักเรียนชาย 4 คนที่พยายามหาความรักในช่วงวันหยุดฤดูร้อน วันหนึ่งมีผู้หญิงที่พวกเขาเคยรู้จักตั้งแต่สิบเอ็ดปีที่แล้วย้ายกลับมาอยู่ใกล้ ๆ พวกเขาอีกครั้ง เธอดูเหมือนจะเป็นแค่เพื่อนหญิงธรรมดาที่ไม่ได้ทำให้พวกเขาปิ๊งอะไรเลย แต่แล้วเรื่องราวของความเป็นเพื่อนจะพัฒนาไปเป็นความรักหรือไม่ เป็นละครเกี่ยวกับชายวัยรุ่นที่กำลังโต ออกแนวกะล่อน ๆ ทะลึ่งนิด ๆ สอนเรื่องเพศศึกษา ดูแล้วคุณจะขำกับความอยากโตเป็นหนุ่มของพวกเขา โดยเรื่องนี้ได้ไอดอลที่ได้รับความนิยมมากในช่วงนั้นมารับบทเด่นในเรื่องนี้ด้วยทั้ง นิโนะ (Ninomiya Kazunari) ยามะพี (Yamashita Tomohisaซูซูกิ แอนน์ (Suzuki Anne) นาริมิยะ ฮิโรกิ (Narimiya Hiroki) และ เองุริ ชุน (Oguri Shun)

15.Dragon Zakura

เรื่องราวของทนายหนุ่มที่ถูกว่าจ้างให้มาช่วยกู้สถานการณ์โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งที่กำลังจะถูกฟ้องล้มละลาย ก็เลยช่วยหาวิธีการกอบกู้สถานการณ์ให้กับโรงเรียนกลับมา ด้วยการผันตัวจากทนายเป็นครูพิเศษเพื่อที่จะช่วยให้กลุ่มนักเรียนเกเรสอบเข้ามหาลัยโตเกียวซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของประเทศให้ได้ นำแสดงโดยไอดอลชื่อดังทั้งยามาพี (Yamashita Tomohisa) เทปเป (Koike Teppei) ส่วนทนายรับบทโดย ฮิโรชิ อาเบะ (Abe Hiroshi)

16.Marumaru Chibi Maruko-chan (2006)

หนูน้อยจอมซ่ามารุโกะจังเวอร์ชันคนแสดงปี 2006 รับบทโดยน้อง Ei Morisako เป็นเวอร์ชันแรกที่เป็น live action น้องที่แสดงเป็นมารุโกะน่ารักมาก เหมือนหลุดออกมาจากการ์ตูนเลย ส่วนคนที่เล่นเป็นพี่สาวมารุโกะคือ Mayuko Fukuda หลาย ๆ คนอาจคุ้นหน้าคุ้นตาเธอจากซีรีส์และภาพยนตร์หลาย ๆ เรื่อง อย่างเรื่อง Death Note, The Queen’s Classroom พล็อตเรื่องก็เหมือนกับในการ์ตูนที่เคยดูนี่แหละ ตัวละครทุกตัวก็เหมือนหลุดออกมาจากการ์ตูนไม่มีผิดเพี้ยนเลยจริง ๆ

17.Brother Beat

เรื่องราวของสามหนุ่มที่พ่อเสียไปตั้งแต่พวกเขายังเด็ก ส่วนแม่ของพวกเขาก็ทำตัวไม่ค่อยเหมือนกับแม่สักเท่าไร ลูกชายคนโต Tatsuya (รับบทโดย Tamayama Tetsuji) ทำงานในบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง จึงไม่ค่อยมีเวลาสนใจเรื่องความรักสักเท่าไร เพราะเขารู้สึกว่าตัวเองเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบซึ่งสำคัญกว่า ลูกชายคนที่สอง Riku (รับบทโดย Hayami Mokomichi)เป็นครูสอนว่ายน้ำ ชอบไปเดตกับสาว ๆ แต่ไม่ชอบการผูกมัดเพราะไม่อยากทำให้ใครเสียใจ จนวันหนึ่งเพื่อนของเขาชวนไปทำงานเป็นโฮสที่คลับแห่งหนึ่งเพราะได้เงินเยอะแถมไม่ต้องเหนื่อยมาก เขาจึงไปทำงานโดยไม่บอกที่บ้าน น้องคนสุดท้อง Junpei (รับบทโดย Nakao Akiyoshi) เป็นนักศึกษาแพทย์ มักต้องทำงานบ้านแทนแม่ที่ไม่เอาไหน แต่ถึงอย่างไรสมาชิกในบ้านทั้งหมดก็รักใคร่กลมเกลียวกัน เป็นซีรีส์ที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ความฮา แถมยังซึ้งไปกับความผูกพันที่สมาชิกในครอบครัวมีให้แก่กันด้วย

18.Akai Ito

Akai Ito หรือชื่อภาษาไทย ด้ายแดงแห่งรัก เป็นจากซีรีส์ที่สร้างจากนวนิยายทางมือถือที่ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น นำแสดงโดย จุนเป (Mizobata Junpei) และนาโอะ (Minamisawa Nao) คำว่า Akai Ito แปลว่า ด้ายแดงแห่งโชคชะตา เชื่อว่าคนเราเกิดมาจะมีด้ายแดงผูกที่นิ้วก้อยไว้ เป็นด้ายที่มองไม่เห็น ซึ่งด้ายแดงนี้เป็นสิ่งที่เชื่อมโยงเรากับเนื้อคู่เอาไว้ด้วยกัน หากเป็นเนื้อคู่กันแล้วยังไงก็ต้องได้เจอกัน โดยเล่าเรื่องผ่านชีวิตของละครหลักของเรื่องทั้งสองคนเกิดวันที่ 29 กุมภาพันธ์วันเดียวกัน ที่นอกจากเรื่องพรหมลิขิตที่ซีรีส์เรื่องนี้ได้เล่าถึงแล้ว ยังบอกเล่าถึงปัญหาต่าง ๆ รอบตัว ๆ ของคนในสังคมผ่านชีวิตของคนรอบตัวทั้งสองคน ทั้งปัญหาครอบครัว ยาเสพติด การใช้ความรุนแรง การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร และการฆ่าตัวตายเอาไว้ด้วย เป็นอีกหนึ่งซีรีส์น้ำดีที่อยากให้ดูกัน

19.Seito Shokun!

ซีรีส์ที่สร้างมาจากการ์ตูนชื่อเดียวกัน เป็นเรื่องราวของนาโอโกะ (รับบทโดย Uchiyama Rina) ครูใหม่ในโรงเรียนไฮสคูลแห่งหนึ่งได้พยายามสุดความสามารถในการให้ความรู้นักเรียนจอมเฮี้ยวที่ไม่เคยฟังครู แม้ว่าผู้ปกครองจะโทษว่าเป็นเพราะโรงเรียนที่ทำให้ลูกมีความประพฤติไม่ดี แต่คุณครูก็ไม่ยอมแพ้พยายามหาเคล็ดลับที่จะทำให้นักเรียนเชื่อฟัง นอกจากนี้ยังมีนักแสดงมากฝีมืออย่าง Shiina Kippei, Hongo Kanata, Horikita Maki, Okada Masaki และอีกหลายท่าน

20.Gal circle

สารภาพว่าที่เราดูเรื่องนี้เพราะ Yaguchi Mari จากวง Morning Musume แต่พอดู ๆ ไป เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่สนุกมาก ๆ เป็นเรื่องราวของ Kitajima Shinnosuke (รับบทโดย Fujiki Naohito) คาวบอยจากอเมริกาที่มาชิบุย่าเพื่อตามหากลุ่มผู้หญิงที่เต้นพาราพาร่า และเพื่อตามหาคน ๆ หนึ่งด้วย แต่แล้วกลับกลายเป็นว่าเขาได้กลายเป็นฮีโร่ที่คอยช่วยสาว ๆ กลุ่มที่เต้นพาราพาร่าแก้ปัญหาในเหตุการณ์ต่าง ๆ เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อต้องมาดูเอาเอง

21.Ghost Mama Sosasen

เรื่องนี้เป็นซีรีส์แนวคอมเมดี้ เป็นเรื่องราวของคุณแม่ที่เป็นตำรวจที่มีอุดมการณ์แน่วแน่ แต่โชคร้ายประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต (รับบทโดย Nakama Yukie) มีเพียงลูกชายเท่านั้นที่มองเห็นแม่ของเขา ด้านผีคุณแม่ที่ไม่ยอมไปเกิดเพราะยังมีเรื่องที่เป็นห่วงอยู่ ยังคอยเฝ้ามองและดูแลคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ (รับบทโดย Sawamura Ikki) ลูกสาวคนโต (รับบทโดย Shida Mirai) และลูกชายคนเล็ก (รับบทโดย Yuma Kimino) นอกจากนี้ผีคุณแม่ยอดนักสืบยังคงไปที่สถานีตำรวจที่เคยทำงานบ่อย ๆ โดยหลายครั้งผีคุณแม่ก็ช่วยคลี่คลายปัญหาต่างๆ โดยมีลูกชายเป็นสื่อกลาง 

22.Boku no Ita Jikan

หรือชื่อภาษาไทยที่ถูกตั้งชื่อว่า หนึ่งชีวิตของผม นำแสดงโดย Miura Haruma และ Tabe Mikako เรื่องราวของชายหนุ่มจบใหม่ไฟแรงได้ทำงานในบริษัทเฟอร์นิเจอร์เล็ก ๆ แทนการใช้เส้นสายทำงานในโรงพยาบาลของพ่อตัวเอง แต่แล้ววันหนึ่งเขากลับพบว่ามือของเขาเริ่มไม่มีแรงก็เลยไปหาหมอพบว่าตัวเองเป็นโรค ALS แต่ในความโชคร้ายก็ยังพอมองเห็นความสวยงามในชีวิตอยู่บ้าง ทั้งเพื่อนร่วมงานที่ให้พระเอกได้ทำงานจนวินาทีสุดท้ายเท่าที่พระเอกจะทำไหว เมื่อออกจากงานก็ให้โอกาสได้ทำงานที่บ้านแทน ส่วนนางเอกของเรื่องเคยเจอกับพระเอกมาก่อนตอนสมัครงาน หลังจากที่ได้ไปลองทำงานอาสาสมัครดูแลคนป่วยก็ได้ทำงานที่นี่ และก็ได้กลับมาดูแลพระเอกอีกครั้ง Miura Haruma ที่รับบทพระเอก ถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครออกมาได้ดีมาก ๆ ทำให้เราอยากเอาใจช่วยและอินไปกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับพระเอกได้ไม่ยากเลย เชื่อเถอะว่าเรื่องนี้จะทำให้คุณเสียน้ำตาพอ ๆ กับเรื่องบันทึกน้ำตาหนึ่งลิตร (ที่เราได้พูดถึงไปในข้อ 7) 

23.Rich Man Poor Woman

เรื่องราวของ Toru Hyuga (รับบทโดย Oguri Shun) เจ้าของบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ Next Innovation ที่แม้ว่าจะเก่งแต่ก็มีข้อด้อยตรงที่เขามักจะจดจำใบหน้าของคนอื่นไม่ค่อยได้ มาเจอกับนางเอก Sawaki Chihiro (รับบทโดย Ishihara Satomi) หญิงสาวผู้มีความจำเป็นเลิศที่มาสมัครงานในบริษัทไอทีแห่งนี้ เธอได้ต่อกรกับพระเอกตั้งแต่วันสัมภาษณ์ แต่แล้ว Toru ต้องแปลกใจที่ Sawaki มีชื่อและนามสกุลเหมือนกับแม่ของตัวเองที่เขาตามหามาตลอดทั้งชีวิต และเนื่องด้วยปัญหาที่เขาจำหน้าคนไม่ได้ เขาจึงตัดสินใจจ้างเธอมาให้ช่วยจดจำข้อมูลและรายละเอียดต่าง ๆ ของคนที่ทำธุรกิจด้วย เป็นเรื่องราวที่เสนอเกี่ยวกับอาชีพ และการทำงานหนักสไตล์ญี่ปุ่น แต่ก็มีเรื่องราวความรักกุ๊กกิ๊กระหว่างคู่พระนางให้ฟินจิกหมอนด้วย ใครที่ดู ver.เกาหลีมาแล้วลองดู ver.ญี่ปุ่นกันดูจะพบว่ามันสนุกไม่ต่างกันเลย

24.Nobuta wo Produce

เรื่องราวของสองนักเรียนชายชูจิ (รับบทโดย Kazuya Kamenashi) และอากิระ (รับบทโดย Tomohisa Yamashita) ที่คอยช่วยเหลือ “โนบุโกะ” (รับบทโดย Maki Horikitaนักเรียนหญิงที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ เธอเป็นคนเรียบร้อยและไม่กล้าแสดงออกทำให้ถูกกลุ่มเพื่อนในห้องเดียวกันกลั่นแกล้ง ชูจิและอกิระคิดว่ามีทางเดียวที่จะคอยช่วยให้โนบุโกะหลุดพ้นจากปัญหาการถูกกลั่นแกล้งได้ก็คือการเปลี่ยนเธอให้กลายเป็นคนดังของโรงเรียน โดยตั้งชื่อเล่นให้โนบุโกะว่า “โนบุตะ” และเรียนปฏิบัติการนี้ว่า Nobuta wo Produce เรื่องนี้ตลกมากถึงแม้ว่าคุณจะไม่ใช่แฟนคลับของคาเมะกับยามะพีก็พลาดไม่ได้เลยที่จะดูเรื่องนี้

25.5-ji Kara 9-ji Made: Watashi ni Koi Shita Obōsan

เรื่องราวที่สร้างขึ้นจากมังงะสู่ละครยอดฮิตเป็นเรื่องราวของ จุนโกะ (รับบทโดย Ishihara Satomi) หญิงสาวสมัยใหม่ที่เป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่สถาบันภาษาแห่งหนึ่ง เธอฝันว่าสักวันหนึ่งเธอจะได้ไปใช้ชีวิตอยู่ที่นิวยอร์ก แต่แล้ววันหนึ่งเธอต้องไปดูตัวกับ ทาคาเนะ (รับบทโดย Tomohisa Yamashitaชายหนุ่มที่เพรียบพร้อมทั้งหน้าตาและการศึกษา แต่เขาดันเป็นพระ!! พระหนุ่มทาคาเนะตกหลุมรักจุนโกะจึงพยายามทำให้เธอแต่งงานกับเขาให้ได้ แต่ในขณะเดียวกันก็มีรุ่นพี่ที่ทำงาน 2 คนที่พยายามจีบนางเอก แล้วนางเอกจะเลือกใคร จะแต่งงานกับพระหรือไม่ต้องมาลุ้นกัน ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นนับถือศาสนาพุทธคนละนิกายกับบ้านเรา “พระ” ถือว่าเป็นอาชีพสุจริตอาชีพหนึ่งที่สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ มีทรัพย์สินส่วนตัวได้ หรือประกอบอาชีพอื่นควบคู่ไปด้วยก็ได้ เมื่อได้ดูเรื่องนี้แล้วเราก็จะได้เรียนรู้วิถีชีวิตและวัฒนธรรมฉบับญี่ปุ่นผ่านละคร ซึ่งถือว่าดีมาก ๆ เป็นอีกเรื่องที่ต้องดูให้ได้เลย 

สุดท้ายนี้หวังว่าซีรีส์ที่ได้แนะนำไปในบทความจะมีสักเรื่องที่ทุกคนสนใจเอาไว้เป็นตัวเลือกดูเพลิน ๆ ยาว ๆ ในวันหยุดนะ 🙂

บทความที่เกี่ยวข้อง 
5 หนังแนะนำที่กำกับโดย “ผู้กำกับหญิง”
5 หนังแนะนำที่กำกับโดย BONG JOON-HO
ห้ามพลาด! 4 หนังดิสนีย์มาใหม่เตรียมเข้าฉายรับปี 2020
6 รายการทีวีบน NETFLIX ที่ห้ามพลาดเอาไว้ดูยาว ๆ ส่งท้ายปี 2019

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *